Final EP :ฝันไกล…จะไปต่อ
อย่ากลัวแม้เราอาจจะไปไม่ถึงสิ่งที่ฝัน
แต่จงกลัวหากเราไม่ได้มีความเชื่อ
หรือความพยายามใดเลยดีกว่า
Final EP :ฝันไกล…จะไปต่อ
ชีวิตเรามีสีสัน ตื่นเต้น ท้าทาย เพราะความฝัน
และที่ผ่านมาเรามักจะได้รับการปลูกฝัง
ตอกย้ำแนวคิด “ฝันให้ไกล…แล้วไปให้ถึง” โดยสื่อต่าง ๆ มาโดยตลอด
จนทำให้หลายคนเป็นโรคขี้ขลาดปิดตัวเอง ไม่กล้าคิดฝัน
เพราะกลัวว่าถ้าหากทำไม่ได้อย่างฝัน
จะทำให้คนรอบข้างซ้ำเติมและรู้สึกว่าตัวเองด้อยคุณค่าขึ้นมาทันที
เพราะไม่สามารถทำความฝันให้เป็นจริงขึ้นมาได้
ความฝันนั้นจึงกลายเป็นแค่ลมแต่ไม่สามารถจับต้องได้
ซึ่งผมว่า “ความไม่กล้าคิดฝัน” นี่เอง
เป็นการบั่นทอนและไม่ดีต่อตัวเราเองครับ
เพื่อให้ชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องตื่นเต้นและท้าทาย
ในหัวสมองของผมจึงบรรจุความฝันไว้มากมาย
เมื่อตอนเป็นเด็ก เห็นรุ่นพี่ขับมอเตอร์ไซค์ไปยังที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ผมก็อยากขับรถมอเตอร์ไซค์อย่างพวกเขาบ้าง
ครั้งแรกที่หัดขับเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
แล้วความรู้สึกตื่นเต้นก็ลดระดับลงเรื่อยๆ เมื่อเกิดความเคยชิน
และมองไปยังความฝันที่ไกลกว่านั้น คือการมีรถยนต์เป็นของตัวเอง
เริ่มต้นทำงานและเก็บหอมรอมริบเพื่อจะมีเงินซื้อรถยนต์ในฝันมาครอบครองให้ได้ในสักวัน
นอกจากนี้ผมก็ฝันเอาไว้ว่าจะต้องเรียนจบในระดับปริญญาโทให้ได้
เป็นเวลา 3 ปีกว่าที่ผมพยายามตั้งหน้าตั้งตาเรียน
ชนิดว่าหายใจเข้าเป็นตำราเรียน หายใจออกเป็นวิทยานิพนธ์
อดนอนติดต่อกันเป็นเวลาแรมเดือน ถอนหายใจหนัก ๆ หลายครั้งอย่างเหน็ดเหนื่อย
แต่ผมก็พยายามกัดฟันสู้ต่อเพื่อความฝัน
จนวันหนึ่งเมื่อผมได้สวมชุดครุยและกอดใบปริญญาโทแนบอก
ผมถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอกและสูดลมหายใจความภาคภูมิใจให้เต็มปอด
เพื่อจะบอกกับทุกคนว่ารสชาติของการฝันให้ไกลและไปให้ถึง
มันทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความกระชุ่มกระชวยและมีสีสันแบบนี้นี่เอง
และยังเป็นพลังขับเคลื่อนความฝันของผมไปยังการศึกษาในขั้นที่สูงกว่าอีกด้วย
สิ่งสำคัญของความฝันไม่ได้อยู่ที่ฝันนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน
แต่คุณค่ามันอยู่ที่เรามีความพยายามแค่ไหนที่จะเดินตามฝันของตัวเองต่างหาก
ผมยังคงสนับสนุนความคิดที่ว่า “ฝันให้ไกล…และไปให้ถึง” อยู่เหมือนเดิมนะ
แต่ผมจะยิ่งสนับสนุนมากกว่ากับคนที่มีความมุ่งมั่น
และพยายามที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อทำความฝันนั้นให้เป็นจริงขึ้นมาได้
เพราะนั่นหมายถึง แค่คุณมีความรู้สึกว่าอยากไปต่อในการเดินตามความฝัน
คุณก็จะรู้สึกมีคุณค่า มองเห็นคุณค่าในตัวเองและความฝันแล้ว
A. Montapert นักปรัชญาผู้เขียนหนังสือปรัชญาศาลฎีกาของมนุษย์
: กฎของชีวิต กล่าวเอาไว้ว่า “อย่าสับสนระหว่างความเคลื่อนไหวกับความคืบหน้า”
ม้าโยกนั้นสามารถเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา แต่ไม่คืบหน้าไปไหนเลย”
แม้ฝันที่คุณวางไว้จะอยู่ไกลมากแค่ไหนก็ตาม
เพียงแค่คุณมีฝัน และค่อย ๆ ลงมือทำแล้วเดินไปตามความฝันนั้น
ชีวิตจึงจะถือว่ามีความคืบหน้า
เท่านี้สำหรับผมก็ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่า
มากกว่าฝันแต่ไม่เคยคิดจะทำอะไรเลย
ผมยังมีอีกหลายความฝันที่วางเป้าหมายเอาไว้และยังทำไม่ได้
แต่ผมไม่ได้รู้สึกท้อ หรือมองว่าตัวเองไร้คุณค่าเลย
เพราะตราบใดที่เรายังไม่เคยทิ้งฝัน
และพยายามที่จะไปต่อ ผมก็มีความสุขแล้ว
ความสุขของคนที่เดินตามความฝัน
ก็คือการตั้งคำถามให้กับตัวเองว่า
วันนี้เราได้ลงมือทำอะไรที่ทำให้ก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้แล้วหรือยัง?
ผมมีโอกาสพูดคุยกับคนที่ประสบความสำเร็จหลายท่าน
ทำให้พบว่าพวกเขาเหล่านั้นล้วนมีเป้าหมายในใจของเขาอยู่แล้วว่าคืออะไร
และสิ่งนั้นเองที่ทำให้พวกเขารู้ได้ว่า…
ในแต่ละวันเขาได้ลงมือทำอะไรที่ทำให้เข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่
ผมเพียงกำลังชี้ให้คุณเห็นว่า
เพียงแค่เปลี่ยนนิยามจาก “ฝันให้ไกล…แล้วไปให้ถึง”
มาเป็น “ฝันไกล…จะไปต่อ”จะทำให้เรามีความสุข
ในระหว่างการเดินทางไปสู่ความฝันมากกว่า
นอกจากความฝันซึ่งเป็นเป้าหมายของความสำเร็จแล้ว
ผมเชื่อว่าความสำเร็จที่อยู่ในทุก ๆ ช่วงของการเดินทางไปสู่ความฝันนี่ล่ะ
ที่จะทำให้เรามีกำลังใจที่จะไปต่อเรื่อย ๆ
ภูษิตา สังสนา นักเขียนรุ่นพี่ที่ผมนับถือ
เธอมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียนมาตั้งแต่เด็ก
แต่ไม่เคยมีความรู้ในด้านการเขียนเลย
สิ่งที่เธอพยายามทำมาโดยตลอด คือ
เธอพยายามเขียนกลอน ฝึกเขียนข้อคิด คำคมต่าง ๆ
เขียนเก็บไว้เองบ้าง โพสต์บนโลกสังคมออนไลน์บ้าง
เมื่อได้รับการตอบรับจากเพื่อน ๆ ที่ติดตามเธอ
เธอก็มีกำลังใจในการเขียนมากขึ้น
จนได้หาโอกาสเดินทางมาจากต่างจังหวัด
มาอบรมเพื่อพัฒนาการเขียนของตนเอง
เพราะหวังว่าจะมีผลงานการเขียนเป็นของตัวเองให้ได้
หลังจากเรียนจบ เธอพยายามค้นหาแนวการเขียนที่ถนัดของตนเอง
เริ่มเขียนจากบทแรกที่เขียนแล้วผิด เขียนแล้วแก้ จนจบบท
และมีบทอื่น ๆ ตามมาจนสามารถปิดต้นฉบับได้สำเร็จ
หลายปีกับการเดินทางตามหาความฝันของเธอ
จนวันนี้เธอมีผลงานการเขียนเป็นของตนเอง
ชื่อ “นิทานแห่งความสำเร็จ”
นี่เป็นตัวอย่างความมุ่งมั่นในระหว่างการเดินตามความฝัน
ตัวอย่างของเธอคือลักษณะของคนที่มีความสุขในการพยายามไปต่อ
มีความสุขกับทุกความสำเร็จในระหว่างทาง
มีกำลังใจในการพยายามลองผิดลองถูก
เมื่อเกิดความผิดพลาดก็จะคิดต่อว่าควรแก้ไขอย่างไร
เพื่อเป็นการสำรวจตัวเองให้ดูว่าเราอยู่จุดไหนของการเดินทางไปสู่เป้าหมาย
และคอยเตือนตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ไม่ให้หลงทางนั่นเอง
คนที่มีความฝันหรือเป้าหมายในชีวิต
เขาจะมีความพยายามไปถึงจุดนั้น
และจะมีความรู้สึกที่ดีและมองเห็นคุณค่าของต่อตัวเอง
ลองวาดภาพหรือจินตานาการถึงความสำเร็จของตัวเองเอาไว้
สำรวจตัวเอง และเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถทำได้
อย่ากลัวแม้เราอาจจะไปไม่ถึงสิ่งที่ฝัน
แต่จงกลัวหากเราไม่ได้มีความเชื่อหรือความพยายามใดเลยดีกว่า
“ตั้งความฝันเอาไว้ให้ไกล...แล้วไปต่อให้ถึงกันดีกว่าครับ”
ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงบทสุดท้าย
ของพ๊อคเก็ตบุ๊คที่ผมรักมากๆ “เพราะตัวเรามีค่ากว่าที่คิด”
พรุ่งนี้ผมมีอะไรน่าสนใจมานำเสนอ อย่าลืมติดตามต่อนะครับ ^^
#PositivePsychologistPositiveHR
#BringOutTheBestOfYou
#พัฒนาคนเชิงกลยุทธ์เพื่อเป้าหมายขององค์กรและความสุขของคนทำงาน
#AjarnBatt #Annoptalk #PointsofyouTrainer
สอบถามหลักสูตร และคุยกันได้ที่
Line@ : @annoptalk
หรือลิงค์ https://line.me/R/ti/p/%40gql7317p ?
ติดตามทั้งหมดได้อีกครั้งที่ www.annoptalk.com
https://www.facebook.com/802839553081173/posts/2199666023398512/